ธุรกิจ Retail หรือค้าปลีกเป็นหนึ่งในประเภทการใช้งานที่ได้รับประโยชน์อย่างมากจากการจัดตั้งในพื้นที่แบบ Mix-Use (Mixed-Use Development) อาคารหรือพื้นที่แบบ Mix-Use คือการพัฒนาที่ผสมผสานระหว่างการใช้งานที่หลากหลาย เช่น ที่พักอาศัย สำนักงาน โรงแรม ร้านอาหาร และค้าปลีกเข้าด้วยกันในพื้นที่เดียว ซึ่งเป็นที่นิยมมากขึ้นในเขตเมืองใหญ่และพื้นที่ที่มีการพัฒนาอย่างหนาแน่น
ข้อดีของการใช้พื้นที่ Mix-Use สำหรับธุรกิจ Retail:
-
การเข้าถึงกลุ่มลูกค้าหลากหลาย
- การตั้งร้านค้าปลีกในอาคาร Mix-Use ช่วยให้ร้านค้าสามารถเข้าถึงลูกค้าได้หลากหลายกลุ่ม ทั้งจากผู้อยู่อาศัยในอาคาร พนักงานในสำนักงาน รวมถึงนักท่องเที่ยวและผู้มาเยือน ทำให้มีฐานลูกค้าที่หลากหลายและมั่นคง ช่วยเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าและบริการได้มากขึ้น
-
เพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้า
- ลูกค้าที่อาศัยหรือทำงานในอาคาร Mix-Use จะได้รับความสะดวกสบายจากการมีร้านค้าปลีกอยู่ใกล้ตัว ทำให้ไม่ต้องเดินทางไกลเพื่อซื้อสินค้าหรือบริการ ส่งผลให้ลูกค้ามีแนวโน้มที่จะเข้ามาใช้บริการบ่อยขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจค้าปลีก
-
การสร้างประสบการณ์ที่ครบวงจร
- การตั้งร้านค้าปลีกในพื้นที่ Mix-Use ช่วยสร้างประสบการณ์การใช้ชีวิตที่ครบวงจรสำหรับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การพักผ่อน และการจับจ่ายซื้อของในพื้นที่เดียวกัน ส่งผลให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจและมีความผูกพันกับแบรนด์มากขึ้น
-
ลดความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงในเศรษฐกิจ
- พื้นที่ Mix-Use มีการใช้งานที่หลากหลาย ทำให้มีแหล่งรายได้ที่หลากหลาย หากเศรษฐกิจหรือธุรกิจประเภทใดประเภทหนึ่งประสบปัญหา ก็ยังมีธุรกิจอื่นๆ ในอาคารที่สามารถสร้างรายได้และรักษาความมั่นคงให้กับโครงการได้
-
การดึงดูดลูกค้าจากภายนอก
- การผสมผสานร้านค้าปลีกกับพื้นที่ใช้งานอื่นๆ เช่น ร้านอาหาร โรงแรม หรือสถานบันเทิง ช่วยดึงดูดผู้คนจากภายนอกให้เข้ามาใช้บริการในพื้นที่ Mix-Use นั้นๆ ทำให้ร้านค้าปลีกมีโอกาสเข้าถึงลูกค้าใหม่ๆ ที่อาจจะไม่เคยเข้ามาใช้บริการมาก่อน
-
การส่งเสริมการพัฒนาแบบยั่งยืน
- พื้นที่ Mix-Use ช่วยลดการใช้รถยนต์และการเดินทางระหว่างพื้นที่ ทำให้ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน ทั้งในแง่ของสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ
-
การเพิ่มมูลค่าให้กับอสังหาริมทรัพย์
- การมีธุรกิจค้าปลีกที่ประสบความสำเร็จภายในพื้นที่ Mix-Use ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมด รวมถึงส่วนที่เป็นที่พักอาศัยและสำนักงาน ทำให้เจ้าของโครงการได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดีกว่า
ตัวอย่างการใช้พื้นที่ Mix-Use กับธุรกิจ Retail:
- ห้างสรรพสินค้าในโครงการคอนโดมิเนียม: บางโครงการคอนโดมิเนียมที่เป็น Mix-Use จะมีห้างสรรพสินค้าหรือศูนย์การค้าอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ผู้อยู่อาศัยสามารถลงมาซื้อของที่จำเป็นได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องเดินทางออกไปข้างนอก
- ตลาดกลางคืนในพื้นที่สำนักงาน: การเปิดตลาดกลางคืนในพื้นที่ Mix-Use ที่มีสำนักงานอยู่จะช่วยดึงดูดพนักงานและคนทำงานในพื้นที่ให้มาจับจ่ายซื้อของหลังเลิกงาน ซึ่งเป็นการใช้พื้นที่ในช่วงเวลาที่อาจจะมีการใช้งานน้อยลง
การนำธุรกิจ Retail มาผสมผสานกับการใช้งานในรูปแบบ Mix-Use ช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจที่หลากหลายและเพิ่มความคุ้มค่าในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะในเขตเมืองที่มีความหนาแน่นสูงและมีความต้องการที่พักอาศัยและการทำงานในพื้นที่เดียวกัน